การท่องเที่ยวระยะสั้นบริเวณเมืองพังงา
Tour Counter >>
M.T. Tour (เอ็ม ที ทัวร์) (PhangNga) ที่แผนกต้อนรับของโรงแรมเมืองทอง คุณจะพบกับคู่มือนายฮาซิม จาก เอ็มทีทัวร์ เขาเสนอทัวร์อ่าวพังงาและทัวร์วัดป่า นอกจากนี้เขามีให้เช่ารถมอเตอร์ไซด์ นี้เป็นทัวร์ 3 รอบ ในช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายเช่นเดียวกับทัวร์พิเศษที่มีเรือคายัคท่ามกลางโขดหินที่น่าทึ่ง อัตราราคาไม่แพงมากสำหรับสิ่งที่เขาให้บริการ นายฮาซิม มีคำแนะนำจำนวนมากที่แขวนอยู่บนผนัง น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถอ่าน แต่ฉันสามารถรับประกันคุณที่เป็นบวกจริงๆ รายละเอียดของการทัวร์เห็นในภาพด้านล่าง Tel.: 089-2892566 , 076-412132 Travel Agency >>
Travel Agency >>
Sayan Tour (สายัณห์ทัวร์) (PhangNga) สายัณห์ทัวร์มีบริการวิ่งทริปเรือไปอุทยานแห่งชาติเกาะพังงา ถ้ำลอด ถ้ำทะลุ เกาะเจมส์บอนด์ เกาะปันหยี เขาเขียน เขามาจู คุณสามารถเลือกระหว่างครึ่งวัน เต็มวันหรือการเดินทางข้ามคืน อัตราเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 500 บาท 219 ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Tel.: 076-430348
Island >> James Bond Island (เกาะตะปู) (PhangNga) ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คิดเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯ ตามลำคลองเกาะปันหยีจังหวัดพังงา อยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน เกาะตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปร่างคล้ายตะปู มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) การชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้ เกาะตะปูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จนมีภาพยนตร์ฮอลวูดมาถ่ายทำที่เกาะตะปูนี้ ในปีพ.ศ. 2517 ภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) และเกาะตะปู ยังได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า "James Bond Island" อีกด้วย เกาะตะปู เป็นเขาหินปูน (Limestone) มีอายุประมาณ 295-250 ล้านปี เนื่องจากหินปูนมีคุณสมบัติสึกกร่อนจากการละลายน้ำได้ง่าย ดังนั้นเกาะต่างๆ ในบริเวณอ่าวพังงาจึงมีรูปร่างแปลก ๆ และมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการผุพังทำลายของเนื้อหิน การเกิดของเกาะตะปู มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลสมัยโบราณ เดิมเกาะตะปูและเกาะเขาพิงกันด้านตะวันออก มีสภาพเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน การเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้เกิดมีรอยเลื่อนใหญ่ เป็นแนวยาวพาดผ่านพื้นที่อ่าวพังงาด้านตะวันตก เรียกว่ารอยเลื่อนคลองมะรุ่ย รอยเลื่อนนี้ทำให้เกิดรอยเลื่อนย่อยๆ ติดตามมาดังจะเห็นได้จากรอยเลื่อนที่เขาพิงกัน รอยเลื่อน รอยแตก และรอยแยกที่พบในหินปูนเกาะตะปู นอกจากนั้น รอยเลื่อนยังทำให้เกิดการหักพังของหินขึ้นในบริเวณรอยต่อระหว่างเขาตะปูและเขาพิงกันทางด้านตะวันออก ทำให้เขาตะปูแยกออกมาเป็นเขาลูกโดด พื้นดินบริเวณเขาตะปูและเขาพิงกัน ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลที่แผ่ขยายเข้ามาท่วมในช่วงหลังสุดเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่เขาพิงกัน และเขาตะปูมีสภาพเป็นเกาะ โดยบริเวณเขาตะปูเป็นหัวแหลมยื่นออกไปในทะเล ต่อมาหัวแหลมถูกคลื่นกัดเซาะและขัดเกลา จนกระทั่งมีรูปทรงเรียวและขาดออกจากตัวเขาพิงกันตะวันออกอย่างเด่นชัด มีสภาพเป็นเกาะหินโด่ง น้ำทะเลที่ขึ้นสูงสุดเมื่อประมาณ 6,000 ปีที่ผ่านมา สูงกว่าระดับปัจจุบันประมาณ 4 เมตร การขึ้นลงของน้ำทะเล ได้กัดเซาะเกาะตะปูให้เกิดเป็นแนวรอยน้ำเซาะหิน เว้าเข้าไปที่ระดับดังกล่าว ต่อมาน้ำทะเลลดระดับลงมาอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปัจจุบัน ระดับน้ำทะเลใหม่ได้กัดเซาะส่วนล่างของเกาะตะปูให้เกิดเป็นรอยน้ำเซาะหินแนวใหม่ คือ ระดับที่เป็นส่วนคอดกิ่วที่สุด และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตเช่น หอย เพรียง เกาะอาศัยอยู่โดยรอบเมื่อได้นำซากหอยนางรมที่ติดอยู่ในแนวรอยกัดเซาะนี้ไปหาอายุโดยวิธีคาร์บอนรังสี (C14) ได้อายุประมาณ 2,620 + 50 ปี แสดงว่ารอยคอดกิ่วนี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลเมื่อเวลาประมาณ 2,500 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นน้ำทะเลจึงลดระดับลงมาอยู่ที่ระดับปัจจุบัน ส่วนที่คอดกิ่วที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 ปีที่ผ่านมานี้เอง ทำให้เกาะตะปูมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ เกาะตะปู ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 82130 Cave >> Koh Hong (เกาะห้อง) (PhangNga) เกาะห้อง(รูม ไอแลนด์) เป็นเกาะหินปูนที่สมบูรณ์แบบล้อมรอบด้วยหน้าผา ดูเหมือนจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีหนึ่งปากทางเข้า มีหมู่เกาะจำนวนมากเหมือนในอ่าวพังงา ทางเข้าเกาะห้องเป็นเพียงถ้ำแคบๆ เนื่องจากหลังคาถ้ำต่ำ มีเพียงเรือคายัคที่ผ่านช่องทางระดับน้ำที่เหมาะสม เข้าสู่ห้องโถง มีพระอาทิตย์ส่องจากถ้ำที่มืดให้ความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ของพลังสร้างสรรค์ของธรรมชาติ ประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำของการเข้ามาในความมหัศจรรย์ทางทางธรรมชาตินี้ ในความสันโดษ จะยังคงอยู่กับคุณ สำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตคุณ นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่ดีสำหรับการเล่นน้ำ คนแรกที่จะตรวจสอบภายในเกาะห้องหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน คือ คุณจอห์น เกรย์ นักผจญภัยชาวอเมริกัน เขาเคยเห็นหินที่คล้ายกันในฟิจิและสำรวจอ่าวพังงาครั้งแรกด้วยการพายเรือคายัคจากนั้นเขาก็เริ่มต้น จัดตั้งธุรกิจให้เช่าเรือแคนูของเขาในทะเล เพื่อที่จะให้คนที่รักธรรมชาติคนอื่นๆ ได้ประหลาดใจกับความงดงามของมัน ในปี 1991 คุณริชาร์ด และ คุณเออซูล่า ดอริ่ง เป็นลูกค้าที่หนึ่งในกลุ่มแรกที่ไปท่องเที่ยวกับเขาและนำมาเล่าถึงประสบการณ์ของพวกเขาไกด์บุคอันโด่งดังของเยอรมัน เกาะห้องในอ่าวพังงาจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยการทัวร์เรือคายัคทะเล เกาะห้องสามารถเดินทางจากภูเก็ตหรือกระบี่ทางทะเล และจากเขาหลักมีเพียงทัวร์ภาคเอกชนที่จัดขึ้นโดยคุณเก่งจากสิตาการ์เด้น ซึ่งเป็นรูปแบบทัวร์ 5 แห่ง ที่เป็นไฮไลท์ของพังงาพาเข้าเยี่ยมชมเกาะห้องในที่ ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวอื่นๆ และในพื้นที่หลายเกาะตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามันแน่นอนว่าทั้งหมดของทัวร์ 5 แห่ง คุ้มค่าในการเข้าชม อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 80 หมู่ 1 บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา จ.พังงา 82000 Island >> Koh Panyi (เกาะปันหยี) (PhangNga) เป็นเกาะเล็ก ๆ มีที่เนื้อที่ประมาณ 1ไร่ มีบ้านเรือนประมาณ 200 หลังคาเรือนประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นชาวประมง ขายของที่ระลึก และขายอาหารให้แก่นักท่องเที่ยว มีโรงเรียนประชาบาลแห่งหนึ่งชื่อ โรงเรียนบ้านเกาะปันหยี ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา 82000
Park >> Srinakarin Park (สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์) (PhangNga) สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เป็นสวนสาธารณะ สำหรับประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจบนเนื้อที่ 162 ไร่ 294 ตารางวา ภายในมีพื้นที่และอุปกรณ์ไว้สำหรับการออกกำลังกาย สวนกึ่งธรรมชาติแห่งนี้ยังมีถ้ำฤาษีสวรรค์อยู่บริเวณด้านหน้าภายในถ้ำจะมีธารน้ำใส หินงอกหินย้อย เป็นลักษณะถ้ำลอดสามารถผ่านไปอีกด้านได้ใกล้ๆ กันมีถ้ำลูกเสือ ที่มีขนาดเล็กกว่า ในถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยอยู่ประปรายเช่นกัน มีลำธารไหลลอดถ้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ที่เกิดจากการขึ้นลงของน้ำทะเล ทำให้มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่หลากหลาย มีการสร้างสะพานข้ามลำธารระหว่างถ้ำให้เชื่อมต่อกัน และมีฝูงลิงอยู่ด้านหน้าถ้ำด้วย พื้นที่กว้างขวางร่มรื่นสวยงามแบบธรรมชาติ มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิดโดยเฉพาะต้นตะเคียนทองและต้นเทพทาโร ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพังงา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Mountain >> Khao Chang (เขาช้าง) (PhangNga) เขาช้างเป็นภูเขาหินปูนใหญ่สูงประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ด้านหลังศาลากลางเก่า สัณฐานว่ามีรูปร่างคล้ายช้างขนาดใหญ่นอนหมอบหันหัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีตำนานของสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเขาช้างและเมืองพังงามากมาย เช่น ถ้ำพุงช้าง วังหม้อแกง เขาพิงกัน บ้านช้างนอน เขาหินลับ บ้านตากแดด และเขาตางุ้ม เป็นต้น ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายเหมือง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Cave >> Tham Pung Chang (ถ้ำพุงช้าง) (PhangNga) ถ้ำพุงช้างเป็นถ้ำที่ใหญ่อยู่กลางเขาช้างสัญลัษณ์หนึ่งของพังงา เข้าทางวัดประพาสประจิมเขต ริมถนนเพชรเกษมในเขตเทศบาลเมือง มีความงดงามน่าพิศวงตามธรรมชาติ ด้วยหินงอกหินย้อยอันหากหลายรูปลักษณ์ เช่น คนตกปลา แป๊ะยิ้ม โขลงช้างเดิน ช้างใต้ฉัตร บันไดทองอันวิจิตร มีสายน้ำไหลผ่านกลางถ้ำทั้งช่วงลึกและตื้น ในการเข้าชมนักท่องเที่ยวสามารถเดินลุยน้ำ นั่งแพ และนั่งเรือแคนูที่มีบริการ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การแต่งกายควรสวมกางเกงขาสั้น รองเท้าที่เป็นยาง ถ้ำพุงช้างยังเป็นแหล่งที่สองของประเทศไทย ที่มีการพบค้างคาวกิตติ ค้างคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกและพบครั้งแรกในไทย ปี พ.ศ. 2516 แถวป่าเขาจังหวัดกาญจนบุรี ภายในวัดประพาสประจิมเขต หลังศาลากลางจังหวัด บ้านหัวช้าง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Park >> Sa Nang Manora Forest Park (วนอุทยานสระนางมโนห์รา) (PhangNga) อยู่ตำบลนบปริง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาทอยนางหงษ์ มีพื้นที่ทั้งหมด 180 ไร่ พื้นที่โดยทั่วไปเป็นภูเขาหินปูน เป็นแนวยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทิศใต้ เป็นป่าประเภทป่าดงดิบหรือป่าฝน วนอุทยานฯ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีลำธารไหลจากป่าต้นน้ำที่อยู่บนสันเขาผ่านหุบเขาทั้งพื้นที่ราบ และพื้นที่ต่างระดับทำให้เกิดน้ำตกขนาดเล็ก มีไม้ทางเศรษฐกิจคือ ไม้หลุมพอ ตะเคียน จำปาป่า สัตว์ป่า ได้แก่ เลียงผา ลิง ค่าง หมูป่า ปลาเสือ ปลาพลวงหิน ตะพาบน้ำ ที่มาของชื่อวนอุทยาน “สระนางมโนราห์” ตามความเชื่อเล่าว่ามีนางกินรี 7 ตน บินจากเขาไกรลาศมาเล่นน้ำในสระ แล้วพรานบุญใช้บ่วงบาศจับน้องสุดท้อง ที่ชื่อว่ามโนราห์ไว้ได้ เพื่อนำไปถวายพระสุธน ชาวบ้านจึงใช้เรียกชื่อสระนี้ หมู่ 3 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา 82000
Temple >> Wat Thamtapan (วัดถ้ำตาปาน) (PhangNga) วัดถ้ำตาปาน เป็นสำนักสงฆ์อยู่ภายในถ้ำ ปากทางเข้าถ้ำมีรูปปั้นมังกรประติมากรรม กลางแจ้งของสำนักสงฆ์แห่งนี้คือ นรกจำลองเป็นขุมต่าง ๆ เดินเข้าอุโมงค์จะพบสะพานมีชื่อเรียกว่า สะพานมังกรข้ามนรก ระยะทาง 100 เมตร ไปทะลุปากถ้ำตาปาน. ตรงทางเข้าเป็นรูปปั้นของมังกรและข้างนอกเป็นพระสงฆ์ที่เป็นความประทับใจของรูปปั้น ภายในมีน้ำตกขนาดเล็ก ธารน้ำไหล ลานธรรมเพชร เจดีย์สามยอด ปราสาทหินย้อย เตาหินพันปี หินงอกหินย้อย และพุทธรูปเรียงรายอยู่ตามผนังระยะทางประมาณ 400 เมตร ซ.ถ้ำตาปาน ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Chedi >> Chedi Khao Lang Bart (เจดีย์เขาล้างบาศ) (PhangNga) เจดีย์เขาล้างบาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆ ในเขตอำเภอเมืองพังงาทางด้านหลังโรงเรียนสตรีพังงา ติดกับสำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดพังงาหลังเก่า เราต้องเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดอิฐโบราณไป 122 ขั้น ซึ่งค่อนข้างสูงชัน เจดีย์เขาล้างบาศมีความสูงจากฐานถึงยอดประมาณ 8 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละ 5.50 เมตร เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะโบราณช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลายถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แม้จะเป็นโบราณสถานขนาดเล็กแต่ก็เป็นที่ที่เราสามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองพังงาได้อย่างชัดเจน บรรยากาศแสนร่มรื่น ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา 82000 Temple >> Wat Phrachumyothi (วัดประชุมโยธี) (PhangNga) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ใกล้เคียงกับการก่อตั้งเมือง เดิมเป็นที่ว่างเนินเขา พระธุดงค์จากที่ไกลมักจาริกมาอยู่ เพื่อปฏิบัติธรรมและสั่งสอนธรรมแก่ประชาชน พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนชำนาญในด้านวิปัสสนา แสดงธรรมาจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนเป็นอันมาก บางทีนิมนต์ให้อยู่นาน ๆ ถึงกับจำพรรษา ในที่สุดได้มีการก่อสร้างเป็นที่พำนักสงฆ์ มีการก่อสร้างต่อเติมเสริมแต่งตลอดมาจนเป็นสำนักสงฆ์ ปลายสมัยรัชกาลที่ 3 ใน พ.ศ. 2392 เจ้าจอมยี่สุ่นในรัชกาลนั้น ซึ่งเป็นธิดาคนโตของพระยาบริรักษ์ภูธร (แสง) และเป็นพี่สาวของพระยาบริรักษ์ภูธร (ขำ) ผู้สำเร็จราชการเมืองพังงาตามลำดับ ได้เป็นผู้มีความศรัทธาสร้างขึ้นเป็นวัด เรียกว่า “วัดควน” ตามสภาพที่ตั้งของวัดที่เป็นเนินเขา ในสมัยที่พระปลัดหมุดเป็นเจ้าอาวาส ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดประชุมโยธี ในปัจจุบันวัดมีการพัฒนาสถานที่เปลี่ยนแปลงไปมาก อาคารเก่าเหลือน้อยเต็มที ส่วนมากเป็นอาคารสร้างใหม่ตามความเปลี่ยนแปลงของสังคม และแทนสิ่งก่อสร้างเก่าที่ชำรุดไปตามกาลเวลา สมัยที่ท่านเจ้าคุณพระพิพัฒน์ธรรมวาทีเป็นเจ้าอาวาส แม้พื้นที่วัดมีจำกัดมีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นมาก บริเวณใจกลางของพื้นที่บริเวณวัด เมื่อก่อนมีพุ่มต้นมะปรางใหญ่ 2 ต้น โตขนาดหลายคนโอบ เป็นพุ่มใหญ่สูงหนาทึบ ทรวงทรงสวยงาม ปัจจุบันได้ถูกโค่นไป ใน พ.ศ. 2511 วัดได้รับการคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาประจำอำเภอ และใน พ.ศ.2525 ได้รับยกฐานะจากวัดราษฎร์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญวัดประชุมโยธีตั้งอยู่ในพื้นที่อันจำกัด ตามประวัติวัดเดิมมีพื้นที่ 10 ไร่ 2 งาน 48 ตารางวา แต่ในปัจจุบันลดลงเหลือ 8 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา เพราะทางราชการเวนคืนเนื้อที่วัดไปบ้างเพื่อขยายถนน ที่ตั้งของวัดอยู่บนเนินเขาพื้นที่สูงกว่าแหล่งชุมชนจึงดูเด่น ส่วนที่เป็นภูเขามีสิ่งก่อสร้างอยู่ข้างนบนหลายอย่างที่สำคัญ คือเจดีย์องค์หนึ่ง สร้างสมัยพระปลัดหมุดเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาใน พ.ศ. 2472 ท่านเจ้าคุณศรีพิพัฒน์ธรรมวาที สมัยที่ยังเป็นพระครูอดุลธรรมคุตได้สร้างพระเจดีย์เล็ก (ชาวบ้านเรียกว่า “บัว”) ในปัจจุบันเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากที่สุด แต่เดิมนั้นถือว่าอยู่ห่างออกไป เพราะศูนย์กลางเมืองอันแหล่งชุมชนที่ตลาดเก่า (ตลาดเหนือ) วัดประพาสประจิมเขตร (วัดสราภิมุขในปัจจุบัน) ตั้งอยู่ถัดไปจากตลาดเก่า จึงเป็นวัดที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางชุมชนมากกว่า ตลาดในปัจจุบันยังเป็นป่าเป็นที่เปลี่ยว ด้านตะวันตกอันเป็นที่ธรณีสงฆ์เคยเป็นที่ฝังศพ เผาศพด้านเหนือมีคูน้ำ มีสะพานที่เรียกว่าสะพานขาว เมื่อตลาดเก่าโรยราไป ด้วยเหตุที่มีการทำเหมืองแร่ดีบุก ทรายไหลลงมามากทำให้แม่น้ำพังงาตื้นเขิน น้ำท่วมบริเวณตลาดเก่าทุกปีในฤดูฝน และใน พ.ศ. 2460 เกิดไฟไหม้ใหญ่ ชุมชนค่อยขยายตัวมายังบริเวณที่เป็นตลาดปัจจุบัน ทำให้วัดประชุมโยธีกลายเป็นวัดใกล้ชุมชนไป ในปัจจุบันวัดมีการพัฒนาสถานที่เปลี่ยนแปลงไปมาก อาคารเก่าเหลือน้อยเต็มที ส่วนมากเป็นอาคารสร้างใหม่ตามความเปลี่ยนแปลงของสังคม และแทนสิ่งก่อสร้างเก่าที่ชำรุดไปตามกาลเวลา สมัยที่ท่านเจ้าคุณพระพิพัฒน์ธรรมวาทีเป็นเจ้าอาวาส แม้พื้นที่วัดมีจำกัดมีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นมาก บริเวณใจกลางของพื้นที่บริเวณวัด มีพุ่มต้นมะปรางใหญ่ 2 ต้น โตขนาดหลายคนโอบ เป็นพุ่มใหญ่สูงหนาทึบ ทรวงทรงสวยงาม มีแคร่ใหญ่รอบโคนต้นขนาดเดียวกัน เป็นที่นั่งพักอันร่มเย็นของบรรดาผู้เข้าไปในวัด แต่เมื่อมีการสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างใหญ่ ๆ ต้มไม้ใหญ่ทั้งสองต้นก็ถูกโค่นทิ้งไป อย่างไรก็ตาม ใน พ.ศ. 2511 วัดก็ได้รับการคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาประจำอำเภอ และใน พ.ศ. 2525 ได้รับยกฐานะจากวัดราษฎร์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000 Temple >> Chinese Temple Phang Nga (Chinese Temple Phang Nga) (PhangNga) ในใจกลางตัวเมืองพังงานี้มีศาลเจ้าที่มีสีสันที่น่าสนใจทีเดียว ตรงข้ามเป็นร้านอาหารจีนขนอมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา Building >> Lak Mueang Phang Nga (ศาลหลักเมืองพังงา) (PhangNga) ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา 82000
วัดจีนในจังหวัดพังงา
Temple >> Wat Tham Suwan Kuha (วัดถ้ำสุวรรณคูหา) (PhangNga) วัดถ้ำสุวรรณคูหาเคยเป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพังงา ประกอบด้วยถ้ำใหญ่ กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ใช้เป็นวิหาร พื้นถ้ำเรียบเสมอกัน เพดานมีลักษณะโค้งครึ่งวงกลม ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปูนปั้นทาสีทอง ยาว 7 วา 2 ศอก และพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมทั้งแผ่นหินชนวนทรงใบเสมา จารึกอักษรไทยรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ กว้าง 85 เซนติเมตร สูง 1 เมตร มีบันทึกของพระยาบริสุทธิโลหะภูินทราธิบดี(ถิน)เจ้าเมืองตะกั่วทุ่ง ทุกครั้งทำการบูรณะวัดแล้วฉลองสมโภช เมื่อปี พ.ศ. 2401 ถัดขึ้นเนินไปเป็นถ้ำแจ้ง มีจารึกพระปรมภิไธยย่อของพระมหากษัตร์ พระบรมวงศานุวงศ์และอดีตนายกรัฐมนตรีที่ผนังถ้ำ ถัดไปเป็นถ้ำมืด มีหินงอกหินย้อย ด้านขวามือคือถ้ำแก้ว มีพระพุทธรูปสามองค์ประดิษฐานอยู่บนอาสนะสูง หมู่ 2 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 82130 Temple >> Praya Nakarat Cave Temple (Wat Tham Khao Ngu) (ถ้ำพญานาคราช) (ThapPut) วัดถ้ำพญานาคราชเป็นสำนักสงฆ์ ซึ่งอยู่บนหน้าผาสูง มีความงดงามและจุดเด่นของธรรมชาติ บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย และสีของผนังถ้ำที่คล้ายกับเกล็ดของพญานาค ภายในมีบันไดเป็นขั้นๆ นำเราไปสู่ด้านบนสุดของภูเขา ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆได้ทั่ว บรรยากาศเย็นสบาย รายล้อมด้วยหมู่ต้นไม้ใบหญ้า นอกจากนี้ยังสามารถสักการะองค์พระภายในถ้ำของสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ด้วย หมู่ที่ 3 บ้านไม้งาม(ในด่าน) ต.ถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา 82180 Temple >> Wat Bang Riang (วัดบางเหรียง) (PhangNga) วัดราษฎร์อุปถัมภ์ (วัดบางเหรียง)เสมือนอุทยานประติมากรรมกลางแจ้งแห่งนี้ เดิมชาวบ้านเรียก วัดลุ่ม ตั้งอยู่เชิงเขาล้าน ห่างจากที่ว่าการ อำเภอทับปุดไปทางบ้านบางเหรียง 11 กิโลเมตร มี พระมหาธาตุเจดีย์พุทธธรรมบันลือ ทรงระฆังคว่ำตั้งเป็นสง่าบนยอดเขา ภายในประดับภาพวาดจิตกรรมฝาผนังโดยรอบ อาณาบริเวณของวัดกว่า 500 ไร่ ล้อมรอบด้วยทิวเขาป่าไม้ มีพุทธประติมากรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระพุทธอัฐิมงคลชัย และพระร่วง 3 พี่น้อง องค์พระมหาธาตุเจดีย์ได้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2529 ต่อมาปี 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนาม "พระมหาธาตุเจดีย์พุทธธรรมบันลือ" และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบริราชกุมารี เสด็จมาทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนที่เรียกว่า พระทันตธาตุ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2543 ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา 82180 Elephant >>
Songpreak Elephant Camp (Songpreak Elephant Camp) (PhangNga) แคมป์ช้างสองแพรกเป็นหนึ่งกิจกรรมผจญภัยทางธรรมชาติมากมาย ที่สามารถหาความสุขในหุบเขาสองแพรก ส่วนใหญ่มีบริษัททัวร์จากภูเก็ตมาถึงหุบเขาที่ห่างไกลอย่างมากนี้ไปทางเหนือของตัวเมืองพังงา ลูกค้าของพวกเขาสามารถดื่มดำในกิจกรรมประสบการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ล่องแก่ง เดินป่า ขี่ช้าง และขับรถเอทีวี ในประเภทต่าง ๆ นักท่องเที่ยวที่สนใจในพฤษศาสตร์สามารถขึ้นไปดูดอกบัวผุด เป็นดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่สามารถเติบโตในเส้นผ่าศูนย์กลางได้ถึง 80 ซม.
Park >> Than Boke Khorani National Park (อุทยานแห่งชาติธารโบกธรณี) (Krabi) ราคา: 10 ถึง 50 Baht อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อยู่ใน อ.อ่าวลึก ต.เขาทอง อ.เมือง จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชีงนิเวศที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ 121 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะต่างๆ มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าดงดิบที่มีธารน้ำไหลลอดภูเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน เล่นน้ำ พบแหล่งศิลปะ ถ้ำจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นภาพเขียนสีโบราณที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรม เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า มีธารน้ำไหลลอดภูเขาผ่านบริเวณนี้แล้วไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลแหลมสัก ต้นน้ำเกิดจากเขาถ้ำน้ำผุด เขาถ้ำเพชร ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 4 กิโลเมตร แล้วไหลมาตามลำคลอง เรียกว่า "คลองอ่าวลึก" 2/2 หมู่ 2 ถ.อ่าวลึก-แหลมสัก ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 81110 Cave >> Tham Klang (ถ้ำคลัง) (Krabi) ถ้ำคลัง ตั้งอยู่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เชื่อกันว่าเป็นถ้ำที่มีความยาวอันดับต้นๆของประเทศ ความยาวภายในถ้ำทั้งหมด 1.2 กม. แบ่งเป็น 13 คูหา ความโดดเด่นคือหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตา ภายในไม่มีไฟฟ้า ทั้งยังมีทางเดินที่ซับซ้อน บางช่วงยังเป็นแอ่งน้ำและเวิ้งผา ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงต้องมีไกด์ซึ่งเป็นคนในพื้นนำชม บริเวณปากถ้ำเปิดกว้าง มีสะพานคอนกรีตทอดเข้าไปข้ามแอ่งน้ำ ซึ่งด้านบนเป็นหินย้อยแท่งแหลม แค่ทางเข้าก็รู้สึกว่าน่าตื่นเต้นแล้ว นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวัง เพราะตามทางเข้าเต็มไปด้วยหินย้อยที่ค่อนข้างแหลมจึงต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของไกด์ตลอดเพื่อไม่ได้ให้เป็นการทำลายหินงอกหินย้อยเหล่านั้น ถ้าหากนักท่องเที่ยวต้องการเที่ยวชมตลอดเส้นทาง 13 คูหา จะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง บางช่วงของเส้นทางจะต้องใช้การปีนป่ายและลุยน้ำ แม้บางคูหาของถ้ำจะเชื่อมต่อกันก็ตาม ไฮไลท์ของถ้ำคือหินงอกหินย้อยรูปทรงคล้ายหลอดกาแฟ และแท่งผลึกแคลไซต์หรือแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเกิดจากตะกอนหินปูนที่จับตัวเป็นแท่ง โดยเมื่อน้ำฝนหรือน้ำใต้ดินซึ่งมีหินปูนละลายอยู่หยดซึมผ่านมาจากเพดานถ้ำ ได้ปล่อยให้คราบหินปูนค่อยๆสะสมตัวทีละเล็กทีละน้อยจากนั้นน้ำก็ได้ระเหยตัวไป แต่เนื่องจากถ้ำคลังมีรูหรือรอยแตกเล็กๆเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำซึมเป็นหยุดเล็ก ทำให้หินย้อยเป็นแท่งเล็กๆดูคล้ายหลอดกาแฟ และยังมีแท่งแคลไซต์ซึ่งดูขาวราวกับเป็นแท่งควอทซ์ ซึ่งเกิดจากระบวนการกลั่นตัวตกผลึก(crystallization)ที่น้ำหรือมีอุณหูมิสูงละลายสารแคลเซียมแล้วฟุ้งกระจายในโพรงหินและได้รับความดันที่เหมาะสม ทำให้สารแคลเซียมตกผลึกดูกลายกับปุยนุ่น หรือบางจุดเป็นหินย้อยเส้นเล็กๆ ที่คดงอ แต่ถ้ำคลังมีลมพัดเข้าออกเอาฝุ่นละออเข้าไปภายในทำให้แท่งแคลไซต์จึงมีสีขุ่นขาว นอกจากนี้ยังม่านหินย้อยเวลาที่เราส่องแสงไฟสะท้อนประกายระยิบระยับ ซึ่งเกิดจากผนังถ้ำมีรอยแยกขนาดใหญ่ทำให้น้ำละลายแคลเซียมซึมไหลลงมาเป็นสาย จากนั้นตกตะกอนสะสมตัวกลายเป็นม่านหินขนาดใหญ่ เวลาผ่านไปเร็ววกว่าที่คิดไว้ คงเป็นเพราะมนต์เสน่ห์ของถ้ำคลัง ทำให้พวกเราเพลินก้บการร้องว้าวและจินตนาการกับแท่งแคลไซต์อันแปลกตา การเดินทาง : จากแยกอ่าวลึกเหนือเดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ไปทางจังหวัดกระบี่ 4 กิโลเมตร เลี้ยวขวาหน้าโรงเรียนบ้านในยวนแขก เข้าไปอีก 2 กิโลเมตร อ.อ่าวลึก จ. กระบี่ Cave >> Tham Hua Kalok (ถ้ำหัวกะโหลก) (Krabi) ถ้ำหัวกะโหลกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักสามารถไปได้ทางเดียว ส่วนที่เหลือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ แสงสว่างจากช่องเล็ก ๆ ส่วนบนด้านขวาเป็นห้องโถงเปิดโล่ง ซึ่งหลายคนเชื่อว่าครั้งหนึ่งมันคือสำนักงานประชาสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของประชาชน ภายในด้านขวามีภาพวาดฝาผนังทั้งคนและสัตว์กว่า 70 ภาพ นอกจากนี้ในถ้ำยังพบกะโหลกขนาดใหญ่จำนวนมาก และเปลือกหอยกองขนาดใหญ่ ถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้มากไปตามเส้นทางเดียวกันกับถ้ำลอด บ้านท่าบ่อ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ Temple
Cave >>
Tham Phet (Tham Phet) (Krabi) Zur Tham Phet führen auch Schilder mit dem Namen Petch Cave.
|
ไปยังเว็บใหม่ t-Globe?
ลงทะเบียนสมาชิกเพื่อได้รับข้อมูลทุกอย่างในเว็บไซด์
สมาชิกที่ลงทะเบียนจะสามารถ: |
|