กาญจนดิษฐ์
"อำเภอกาญจนดิษฐ์" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างฟาร์มหอยนางรม ศูนย์ฝึกลิงสมุย และน้ำตกเพชรพนมวัฒน์ ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นเป็นป่าดงดิบชื้นมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดและมีจุดเด่นตามธรรมชาติที่สวยงาม
|
" ฟ า ร์ ม ห อ ย น า ง ร ม " เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ที่ปากคลองท่าทองและปากคลองกะแดะเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมตามธรรมชาติ
หอยนางรมที่ได้จากปากคลองนี้มีขนาดใหญ่กว่าแห่งอื่น |
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวขนาดบรรทุก 10 คน ได้ที่ท่าเรือของหมู่บ้านท่าทอง ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที และควรไปในตอนเช้า หรือช่วงที่น้ำลง เพราะสามารถเห็นหอยนางรมที่เกาะตามแท่งซีเมนต์ได้ชัดเจน |
"อุทยานแห่งชาติใต้ร่ม" เป็นป่าดงดิบชื้นมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดและมีจุดเด่นตามธรรมชาติที่สวยงามเป็นอย่างมาก
|
"น้ำตกเพชรพนมวัฒน์" เป็นน้ำตกที่สวยงาม มี 2 ชั้น ชั้นสูงสุดประมาณ 30 เมตร บริเวณน้ำตกมีหน้าผาหินเป็นหินชั้นมี ลักษณะแปลกตาดูงดงามด้วยสายน้ำที่ไหลลดหลั่นกันไปตามหน้าผาหิน อันมีหินรูปร่างแปลกตาและงดงามเป็นพิเศษนั้นล้วนเป็นความน่าดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่สำหรับช่วงที่น้ำตกมีความสวยงามมากที่สุดคือ"ฤดูฝน"เพราะทั่วบริเวณจะเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่มชุ่มชื้น ในขณะที่น้ำตกจะเต็มไปด้วยสายน้ำที่ทิ้งตัวลงมากระทบกับแอ่งน้ำกว้างด้านล่าง | |
" ศู น ย์ ฝึ ก ลิ ง ส มุ ย " ศูนย์ฝึกลิงสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปชมกับเพื่อนหรือแบบครอบครัวก็ได้ ดาราลิงจะออกมาแสดงให้ดู ด้วยการปีนต้นไม้ต้นที่สูงที่สุด ปั่นจักรยาน โยนให้ลงตะกร้า เป็นความสามารถที่น่ารักของเจ้าดาราลิงน้อยใหญ่ |
การเดินทางมา "ศูนย์ฝึกลิง" เดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสาย สุราษฎร์ธานี - นครศรีธรรมราช ทางหลวงหมายเลข 401 ประมาณ 7 กิโลเมตรและมีทางแยกด้านขวามือเป็นถนนลูกรังไปศูนย์ฝึกลิง อีก 2 กิโลเมตรจะเห็นป้าย "วิทยาลัยฝึกลิงเพื่อการเกษตร" อยู่ด้านขวามือมีการสาธิตและบรรยายหลักสูตรการฝึกลิงกัง | |
"วัดถ้ำคูหา" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่แล้วโบราณสถานที่พบในเมืองไทยมักจะตั้งอยู่กลางแจ้งต้องผจญกับแดดฝนเป็นแรมเดือนแรมปีก็ผุพังสลายไปตามสมัยตามกาลเวลาที่ผ่านมาเป็นร้อยเป็นพันปีแต่ที่"วัดถ้ำคูหา"โบราณวัตถุทั้งหลายสร้างไว้ในถ้ำอาศัยความแข็งแกร่งของคูหาหิน เป็นวิหาร ที่สถิตประดิษฐานของรูปเคารพ ที่สมมุติขึ้นมาแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศาสดาแห่งพุทธศาสนา จึงเป็นแหล่งโบราณสถานที่น่าสนอีกที่หนึ่งในประเทศไทย |
และยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ คือ พระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางไสยาสน์ยาวประมาณ 8 เมตร ประดิษฐานไว้สุดผนังด้านในฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าถ้ำ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปดินดิบ เป็นพระพุทธรูปดินปั้นนูนสูงประกอบด้วยภาพพระพุทธเจ้าและภาพเล่าเรื่องตามคัมภีร์ สัทธรรมปุณฑริกสูตรในพุทธศาสนามหายาน ปั้นปะติดบนผนังและเพดานถ้ำ | |
การเดินทางมาที่
"วัดถ้ำคูหา" จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ไปทาง
อ.กาญจนดิษฐ์ ตรงไปเรื่อยๆ ทางเข้าวัดจะอยู่ทางขวามือก่อนถึงสามแยกวัดคูหา แต่ต้องขับเลยสามแยกเพื่อกลับรถ ปากทางมีซุ้มประตูทางเข้าวัดถ้ำคูหา ขับไปตามทาง 1.2 กม.ผ่านบ้านคูหา วัดถ้ำคูหาอยู่ฝั่งขวามือ